กองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ยึดฐานกองพลทหารราบเบาที่ 437 ฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพเมียนมา ในเมืองโมม๊อก แขวงบะหม่อ รัฐกะฉิ่น ได้เบ็ดเสร็จแล้ว

 

ความคืบหน้าเหตุปฏิบัติการทางทหารโจมตีกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมา ภายใต้รหัส 0307 (Operation 0307) ของกองทัพเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) กองกำลังที่ปฏิบัติการทางทหารภายใต้ องค์กรอิสรภาพกะฉิ่น (Kachin Independence Organisation: KIO) สนธิกำลังกับ กองกำลังพันธมิตร ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา กำลังทหารกองทัพเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defenfe Force: PDF) ได้บุกโจมตีและสามารถยึดฐานที่มั่นที่ควบคุมเส้นทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเมียนมา ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (มันตะเล ภูมิภาคมันตะเล –มิจกฺยีนา รัฐกะฉิ่น) ช่วงระหว่าง เมืองบะหม่อ ถึง เมืองมิจกฺยีนา ได้อย่างเบ็ดเสร็จ 10 ฐาน สถานการณ์ล่าสุด วันที่ 19 สิงหาคม 2024 กำลังทหารกองพลน้อยที่ 3 แห่งกองทัพเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defenfe Force: PDF) ได้บุกโจมตี กองพลทหารราบเบาที่ 437 ฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ของทหารฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมาโดยคณะรัฐประหารที่เรียกตัวเองว่า สภาบริหารแห่งรัฐ (State Administration Council: SAC) ที่ตั้งอยู่นอกเมืองโมม๊อก แขวงบะหม่อ รัฐกะฉิ่น และสามารถยึดได้สำเร็จเมื่อเวลา 16.00 น. ผลการปฏิบัติการสามารถตรวจยึด ยานพาหนะหุ้มเกราะติดอาวุธ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้เป็นจำนวนมาก และมีรายงานว่า การสู้รบที่เมืองโมม๊อกดำเนินมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ทหารฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมา เสียชีวิตราว 200 นาย ส่วนทหารของกองพลน้อยที่ 3 แห่งกองทัพเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defenfe Force: PDF) ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง หลังจากกองพลน้อยที่ 3 แห่งกองทัพเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defenfe Force: PDF) ยึดฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ กองทัพฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมาในเมืองบะหม่อ แขวงบะหม่อ กำลังเสริมถูกกองทัพเอกราชกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) สามารถสกัดขบวนยานพาหนะของทหารเมียนมาเอาไว้ได้ โดยสามารถยึดรถได้ 3 คัน รวมถึงรถหุ้มเกราะอีก 1 คัน แต่กองทัพฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมาส่งเครื่องบินรบออกมาทิ้งระเบิดทำลายขบวนรถที่ถูกยึดทั้งหมดในเวลาต่อมา