กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (Karen BGF) เปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army: KNA)

 

กองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (Karen Border Guard Force: Karen BGF) ซึ่งนำโดย พันเอก ซอ ชิต ตู่ (Colonel Saw Chit Thu) อดีตผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 999 สังกัด กองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ (Democratic Karen Buddhist Army: DKBA) ที่แยกตัวออกมาจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union: KNU) ตำแหน่ง เลขาธิการกองกำลังป้องกันชายแดนในรัฐกะเหรี่ยงและผู้บังคับการกองบัญชาการควบคุมที่ 3 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force: BGF) ที่ 1022 ได้แจ้งต่อทางการเมียนมาเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2024 ว่า ทางกองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (Karen BGF) ประกอบไปด้วย 4 กองบัญชาการควบคุม (เทียบเท่ากองพล) 13 กองกำลังควบคุมพื้นที่ (เทียบเท่ากองพัน) ฐานบัญชาการของแต่ละกองบัญชาการควบคุม ตั้งอยู่ในเขตเมืองไหล่บฺแว่ เมืองผ่าบุ่น เมืองเมียะวะตี่ และเมืองกฺย่าอินเซ๊กกฺยี รัฐกะเหรี่ยง จะไม่ขอรับเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ที่กําหนดให้เป็นรายเดือน หรือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กองทัพบกเมียนมาจ่ายให้แก่ผู้ปฏิบัติงานอีกต่อไป และทางกองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (Karen BGF) จะไม่เข้าข้างกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาฝ่ายใด และจะไม่ต่อต้านทหารของรัฐบาลเมียนมา จะขอวางตัวเป็นกลาง ทำหน้าที่รักษาความสงบในพื้นที่ควบคุมของตนเอง และจะหางบประมาณมาดูแลกำลังพลด้วยตัวเอง ล่าสุด สื่อในเมียนมารายงานตรงกันว่า กองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (Karen BGF) จะเปลี่ยนชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army: KNA) และถึงแม้จะยังไม่มีแถลงการณ์ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในเวลานี้ แต่ได้รับคำยืนยันจากปากของ พันตรี ซอ ติ่น วิน (Major Saw Tin Win) ผู้บังคับการกองบัญชาการควบคุมที่ 2 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force: BGF) ที่ 1014 ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์กองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (Karen Border Guard Force: Karen BGF) เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) จำนวน 13 กองกำลังควบคุมพื้นที่ จากทั้งหมด  4 กองบัญชาการควบคุม เห็นตรงกันกับการเปลี่ยนแปลงจุดยืนในครั้งนี้