ทหารพม่ามีส่วนร่วมในความขัดแย้งต่างๆ มาเป็นเวลาหลายทศวรรษกับบรรดากลุ่มที่กล่าวว่าเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ต่างๆ ที่ต้องการสิทธิในการปกครองตนเองในพื้นที่ของพวกเขา รัฐฉานถือเป็นรัฐยุทธศาสตร์สำคัญของพม่า เนื่องจากเป็นรัฐมีพื้นที่ใหญ่สุด และมีกองกำลังติดอาวุธมากที่สุด ที่สำคัญมีพรมแดนติดกับประเทศไทย ลาว และจีน ที่เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงใหญ่ของพม่า รัฐยุทธศาสตร์แห่งนี้ มีกำลังทหารพม่าหน่วยต่างๆ เข้าประจำการมากกว่า 300 กองพัน และยังเป็นที่ตั้งกองบัญชาการกองทัพภาคถึง 4 กองทัพภาค ได้แก่ กองทัพภาคตะวันออก (บก.ตองจี) กองทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บก.ล่าเสี้ยว) กองทัพภาคสามเหลี่ยม (บก.เชียงตุง) และกองทัพภาคตะวันออกกลาง (บก.โขหลำ) จากการที่มีกำลังทหารเข้าประจำการเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งการบังคับใช้แรงงาน เกณฑ์ลูกหาบ เกณฑ์ยานพาหนะ การบังคับโยกย้ายหมู่บ้าน ตลอดจนการปล้นสะดม รวมถึงการละเมิดทางเพศอย่างต่อเนื่อง และจากการต่อสู้ระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธได้ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพพลัดถิ่นจากประเทศและในประเทศของตน
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2018 กองทัพพม่าประกาศจะยุติปฏิบัติการทางทหาร ที่ทหารกำลังต่อสู้กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ ในพื้นที่ของกองบัญชาการภาค 5 แห่ง ประกอบด้วยพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกกลาง และกองบัญชาการภาคสามเหลี่ยม (ครอบคลุมรัฐกะฉิ่นและรัฐฉาน) จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2019 ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้รู้สึกประหลาดใจยิ่ง เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ทหารพม่าประกาศยุติการสู้รบเพียงฝ่ายเดียว และเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จึงนับได้ว่า นี่เป็นครั้งแรก ที่ต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์พม่า และพอครบกำหนดเวลา ได้ออกประกาศขยายเวลาออกไปอีกเป็นระยะๆ ล่าสุด ได้แถลงประกาศเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2019 ขยายออกไปอีกจนถึงวันที่ 21 กันยายน 2019 และสิ้นสุดกำหนดประกาศแล้ว ณ วันนี้ยังไม่มีรายงานว่า กองทัพพม่าประกาศขยายเวลาจะยุติปฏิบัติการทางทหารอีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น
0 ความคิดเห็น