การประชุมใหญ่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ครั้งที่ 17 ให้ ปะโด่ เคฺว ทู วิน อดีตรองประธานฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานฯ คนใหม่ แทน ซอ มูตู เซ โพ

 

การประชุมใหญ่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union: KNU) ครั้งที่ 17 (ทุก 4 ปี) โดยการประชุมครั้งที่ 16 จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2017 แต่หลังจากนั้น ได้เกิดการระบาดของโควิด-19 และการสู้รบที่ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยงหลังการรัฐประหารของกองทัพเมียนมาทำให้การประชุมครั้งที่ 17 ที่เดิมเคยถูกกำหนดให้จัดในปี 2021 ต้องถูกเลื่อนออกไปอีก 2 ปี จนเพิ่งมาได้จัดในปีนี้ ที่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2023 ณ สถานที่แห่งหนึ่งในเขตรับผิดชอบของกองพลที่ 7 แห่งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army: KNLA) ซึ่งดูแลพื้นที่แขวงพาอ่าน พื้นที่ตอนกลางของรัฐกะเหรี่ยง โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 100 คน และการประชุมในวันที่ 2 พฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารกลาง (Central Executive Committee: CEC) ชุดใหม่ และมติที่ประชุมเสียงข้างมากได้เลือกให้ ปะโด่ เคฺว ทู วิน (P'doh Kwe Htoo Win) อดีตรองประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานฯ คนใหม่ แทน พลเอก ซอ มูตู เซ โพ (General Saw Mutu Say Poe) ซึ่งมีอายุกว่า 90 ปี และกำลังมีปัญหาสุขภาพ, ปะโด่ ซอ เซอ เก (P'doh Saw Hser Gay) เป็นรองประธานฯ, ปะโด่ ซอ ต่า โด่ มู (P'doh Saw Ta Doh Moo) เป็นเลขาธิการทั่วไป, ปะโด่ ซอ ทิ เบฺว (P'doh Saw Thi Bweh) เป็นเลขาธิการร่วม (1) และ ปะโด่ ซอ ลฺหะ ทุน (P'doh Saw Hla Tun) เป็นเลขาธิการร่วม (2),  ปะโด่ นอ มฺไย่ โพ (P'doh Naw Myaing Poe) เป็นหัวหน้าผู้พิพากษา และ ปะโด่ ซอ ต่อ หนี่ (P'doh Saw Taw Nee) เป็นหัวหน้าฝ่ายการต่างประเทศและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ส่วนสมาชิกคณะกรรมการบริหารกลาง (CEC) และหัวหน้าแผนกที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม โดยมีอดีตหัวหน้าแผนกหลายคนยังคงดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามีตัวแทนกองพลที่ 2 ดูแลพื้นที่แขวงต่องหงู่ (ภาษาถิ่นเรียกว่าตออู) มีพื้นที่ทับซ้อนกับภูมิภาคใหญ่พะโคตะวันออกด้านตะวันออกเฉียงเหนือ และตัวแทนกองพลที่ 5 ดูแลพื้นที่แขวงผ่าบุ่น (ภาษาถิ่นเรียกว่ามูตรอ) พื้นที่ตอนบนของรัฐกะเหรี่ยง เข้าร่วมด้วย แต่ตัวแทนของทั้ง 2 กองพล ไม่ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง

ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 เป็นต้นมา กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) กองพลที่ 5 ซึ่งเป็นกองทัพที่ใหญ่และเข้มแข็งที่สุดของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) มีแนวคิดที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจนกับแนวทางของผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารกลาง (CEC) ชุดเก่า ที่นำโดย พลเอก ซอ มูตู เซ โพ (General Saw Mutu Say Poe) ซึ่งเน้นการเจรจากับกองทัพเมียนมาเป็นหลัก เพราะได้ไปร่วมลงนามในหนังสือสัญญาเกี่ยวกับการยุติการสู้รบทั่วประเทศ (Nationwide Ceasefire Agreement: NCA) กับรัฐบาลเมียนมาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2015 ในสมัยประธานาธิบดีเต็ง เส่ง (Thein Sein) โดยเฉพาะ พลเอก บอ จฺย่อ แฮ (General Baw Kyaw Heh) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และอดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 5 ซึ่งผ่านการศึกษาหลักสูตรคอมมานโดจากประเทศอังกฤษ และเคยบัญชาการรบกับทหารเมียนมาในสมรภูมิต่าง ๆ อย่างโชกโชน ได้ยึดมั่นในแนวทางว่าการเจรจาต้องดำเนินการไปพร้อมกับปฏิบัติการทางทหาร และการสร้างความเข้มแข็งของกองทัพ