เมืองรุ่ยลี่ เขตปกครองนครรุ่ยลี่ เขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งโพ เต๋อหง มณฑลยูนนานของจีน ล็อกดาวน์ 1 สัปดาห์ ตรวจโควิด-19 ยกเมือง

 

เขตแดนสาธารณรัฐประชาชนจีน-สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 2,185 กิโลเมตร โดยเริ่มจากจุดสามเหลี่ยมหิมาลัย (Himalayan Tri-Point) ซึ่งเป็นจุดบรรจบของรัฐอรุณาจัลประเทศ (อินเดีย) รัฐคะฉิ่น (พม่า) และเขตปกครองตนเองทิเบต (จีน) จากนั้น เขตแดนจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านช่องเขาปฺยี่หม่อทางฟากตะวันออกของรัฐคะฉิ่น ซึ่งเป็นจุดแบ่งระหว่างเขตลุ่มน้ำอิระวดีกับลุ่มน้ำสาละวิน ถัดมาเขตแดนจึงทอดผ่านเมืองพรมแดนรัฐฉานจนไปสุดแนวแม่น้ำโขงแถบตอนเหนือของสามเหลี่ยมทองคำ

มณฑลยูนนาน เป็นมณฑลหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 394,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 45.966 ล้านคน (ค.ศ. 2010) มีเมืองหลวงหรือเมืองเอกของมณฑลชื่อ คุนหมิง มณฑลยูนนานมีอาณาเขตติดต่อกับมณฑลและเขตปกครองต่าง ๆ ของประเทศ ได้แก่ กว่างซี กุ้ยโจว เสฉวน และทิเบต รวมถึงติดต่อกับประเทศเวียดนาม ลาว และพม่า ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น นอกจากนั้นยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ อีก 25 กลุ่มชาติพันธุ์ มณฑลยูนนานแบ่งพื้นที่เขตการปกครองออกเป็น 16 เขต/เมือง ได้แก่ เขตการปกครองนครคุนหมิง,  เขตการปกครองจังหวัดจาวทง, เขตการปกครองจังหวัดฉฺวี่จิ้ง, เขตการปกครองจังหวัดยฺวี่ซี, เขตการปกครองจังหวัดผูเอ่อ, เขตการปกครองจังหวัดเป่าซาน, เขตการปกครองจังหวัดลี่เจียง, เขตการปกครองจังหวัดหลินชาง, เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงและม้ง เหวินซาน, เขตปกครองตนเองชนชาติอาข่าและอี๋ หงเหอ, เขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา, เขตปกครองตนเองชนชาติอี๋ ฉู่สฺยง,  เขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ต้าหลี่, เขตปกครองตนเองชนชาติลีซอ นู่เจียง, เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต ตี๋ชิ่ง และ เขตปกครองตนเองชนชาติไทและจิ่งพัว เต๋อหง

เขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งโพ เต๋อหง หรือ เขตปกครองตนเองใต้คง ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองระดับจังหวัดของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน แบ่งพื้นที่เขตการปกครองดังนี้ เขตการปกครองนครหลู่ซี หรือ นครหมัง (เมืองขอน) เขตการปกครองนครรุ่ยลี่ (เมืองมาว) เขตการปกครองเทศมณฑลเหลียงเหอ (เมืองตี) เขตการปกครองเทศมณฑลหยิงเจียง (เมืองหล้า) และ เขตการปกครองเทศมณฑลหล่งชวน (เมืองวัน)

เขตการปกครองนครรุ่ยลี่ เมืองเอกได้แก่ เมืองรุ่ยลี่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ชฺเว่หลี่ ที่มีประชากรกว่า 210,000 คน เป็นเมืองชายแดนกลุ่มแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เปิดกว้างสู่ภายนอกนับตั้งแต่จีนปฏิรูปและเปิดประเทศในปี 1978 โดยเมืองรุ่ยลี่ได้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจการค้าชายแดนเจี่ยเก้า มีการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ภายใต้รูปแบบพื้นที่นอกด่านในดินแดนจีน จนทำให้เมืองลุ่ยลี่เป็นเมืองการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนที่มีชื่อเสียงของจีน เมืองรุ่ยลี่อยู่ติดกับเมืองหมู่แจ้ รัฐฉานตอนเหนือ ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

ด่านพรมแดนรุ่ยลี่ เป็นด่านพรมแดนถาวรแห่งหนึ่ง ซึ่งเชื่อมกับด่านพรมแดนถาวรเมืองหมู่แจ้ สามารถเดินทางเข้าออกได้ตลอดตามเวลาที่กำหนด สถานการณ์ด้านธุรกิจการค้าผ่านด่านชายแดนมีมูลค่าการค้าสูงปีละ 3.5 แสนล้านหยวน (กว่า 1.6 ล้านล้านบาท) โดยการค้าส่วนใหญ่เป็นประเภทสินค้าเกษตร ไม้ อัญมณี เป็นต้น และยังมีผู้คนเดินทางเข้าออกปีละกว่า 16 ล้านคน

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2020 ที่ผ่านมา มีหญิงถือสัญชาติเมียนมา อายุ 32 ปี พาเด็ก 3 คน และพี่เลี้ยงเด็ก 2 คน ลักลอบเข้าเมืองและพักอาศัยชั่วคราวกับญาติในย่านตลาดเมืองรุ่ยลี่ หนึ่งสัปดาห์ต่อมาหญิงคนดังกล่าวไม่สบายจึงไปทดสอบกรดนิวคลิอิกที่โรงพยาบาล และในวันที่ 13 กันยายน 2020 เจ้าหน้าที่ได้แถลงผลการตรวจ ปรากฏว่าติดเชื้อโควิด-19 พร้อมกับพี่เลี้ยงคนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้หญิงคนดังกล่าวได้ไปตลาด ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส และที่อื่น ๆ ในคืนวันที่ 14 กันยายน เจ้าหน้าที่เขตการปกครองนครรุ่ยลี่ได้จัดการประชุมในกรณีมีเรื่องสําคัญหรือเร่งด่วน โดยที่ประชุมเห็นเป็นการสมควรจึงกําหนดให้รัฐบาลท้องถิ่นประกาศปิดเมือง และดำเนินมาตรการฉุกเฉินแบบภาวะสงคราม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีมาตรการที่ชัดเจนดังต่อไปนี้  1. ให้ผู้อาศัยในเขตเมืองรุ่ยลี่ทุกคนมารับการทดสอบกรดนิวคลีอิกเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยรัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด  2. หลังเวลา 22.00 น. ของวันที่ 14 กันยายน หากไม่มีสถานการณ์หรือกิจพิเศษใด ห้ามประชาชนเดินทางออกจากเมืองเป็นเวลา 1 สัปดาห์  3. ให้สมาชิกครัวเรือนทั้งหมดในเมือง กักตัวดูอาการอยู่ภายในบ้าน  4. กิจการห้างร้านต่าง ๆ ถูกปิดหมด ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้ายขายยา และตลาดขายอาหาร  5. จัดมาตรการสกัดผู้ลักลอบข้ามเขตแดนอย่างเข้มงวดที่สุด  6. ผู้ที่เดินทางออกจากเขตเมืองรุ่ยหลี่ตั้งแต่เวลา 00.00 น.ของวันที่ 12 กันยายนให้มารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่และทดสอบกรดนิวคลีอิก

ในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกมาเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2020 ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย ซึ่งมาจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และทางการจะทำการปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองอย่างเข้มงวด หยาง เปียนเฉียง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจเมืองรุ่ยลี่ควบตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ยอมรับว่า สถานการณ์ชายแดนมีความซับซ้อนจนดูแลจัดการได้ยากมาก การลักลอบข้ามพรมแดนเป็นปัญหาที่มีมาช้านาน ก่อนหน้าเกิดโรคระบาด รัฐบาลท้องถิ่นได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อสกัดการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายบริเวณชายแดนเมียนมา อาทิ ห้ามเรือข้ามฟากเถื่อน จัดหน่วยลาดตระเวนในแม่น้ำเป็นประจำ ตลอดจนประกาศให้รางวัลนำจับการลักลอบเข้าเมือง แต่ก็ยังไม่อาจขจัดปัญหาลักลอบเข้าเมืองได้อย่างราบคาบ และกล่าวว่า จากเหตุพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไร้อาการสัญชาติเมียนมาลักลอบเข้าเมืองครั้งนี้ บ่งชี้ชัดเจนว่าทางการยังปฏิบัติการไม่เพียงพอในการดูแลบริเวณแนวชายแดน 169.8 กิโลเมตร ยังต้องอุดช่องโหว่รอยรั่ว เสริมจุดอ่อนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังต้องขยายการเจรจากับทางการเมียนมา ช่วยเหลือสนับสนุนมาตรการป้องกันโควิด-19 เช่น บริจาคหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์เครื่องสำหรับป้องกันการแพร่บาด

Clip:บรรยากาศ “ล็อกดาวน์” ในวันที่สอง ตามท้องถนนในเมืองรุ่ยลี่กลายเป็นเมืองร้าง ขณะที่ชาวเมืองจำนวนมากแห่แหนแย่งกันซื้อเสบียงอาหารข้าวของใช้จำเป็นต่าง ๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ตหลังจากที่ประกาศปิดเมือง ราคาสินค้าอาหารทุกอย่างพุ่งพรวด อาทิ เนื้อหมูขึ้นราคาถึง 100 หยวน (ราว 500 บาท) ต่อจิน (มาตรวัดน้ำหนักจีน เท่ากับ ครึ่งกิโลกรัม) ผักสดแพงขึ้นถึง 10 กว่าหยวน (กว่า 50-60 บาท) ต่อครึ่งกิโลกรัม