กองทัพอากาศพม่า ครบรอบ ปีที่ 72

กองทัพแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มีกำลังพล ประมาณ 406,000 นาย แยกเป็นกองทัพบก 375,000 นาย อำนาจกำลังรบทางบก หากถือเอาจำนวนรถถังหลักเป็นตัวชี้วัด กองทัพบกมีจำนวนรถถังหลัก 185 คัน รถถังเบา 105 คัน และปืนใหญ่ 419 กระบอก กองทัพเรือ 16,000 นาย อำนาจกำลังรบทางเรือ มีเรือฟรีเกต 5 ลำ เรือคอร์เวต 2 ลำ และเรือดำน้ำที่อินเดียจะส่งมอบให้เร็ว ๆ นี้ กองทัพอากาศ 46,000 นาย อำนาจกำลังรบทางอากาศ มีเครื่องบินที่สามารถทำการรบได้ 167 เครื่อง เป็นเครื่องบินรบหลัก 110 เครื่อง (เครื่องบินขับไล่ 88 เครื่อง เครื่องบินขับไล่โจมตี 22 เครื่อง) ด้วยขนาดเช่นนี้ กองทัพพม่ามีความใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากพม่ามีกำลังพลประจำการในกองทัพแล้ว กองทัพพม่ายังมีกองกำลังเสริมของกองทัพคือ ตำรวจ และ อาสาสมัครพลเรือนกับกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) จากกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลาย ๆ กลุ่ม
กองทัพอากาศแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มีฐานทัพหลัก จำนวน 10 แห่ง คือ ฐานบินหม่อบิ (Hmawbi) ฐานบินหมิ่งกะหล่าโดง (Mingaladon) ฐานบินมิตจินา (Myitkyina) ฐานบินเม็กทิหล่า (Meikthila) ฐานบินโฮมมะลิน (Homemalin) ฐานบินน้ำจ๋าง (Namsang) ฐานบินต่องหงู่ (Taungoo) ฐานบินมะริด (Myeik) ฐานบินปะเต่ง (Pathein) และฐานบินมะเกฺว (Magway)
วันที่ 15 ธันวาคม 2019 ณ ฐานทัพอากาศเม็กทิหล่า (Meikthila) พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพพม่า เป็นประธานในพิธีวันครบรอบการก่อตั้งกองทัพอากาศพม่าครบรอบปีที่ 72 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองทัพอากาศพม่า รวมถึงนายทหารระดับสูงอื่น ๆ คณะภริยานายทหาร และเจ้าหน้าที่รัฐบาลร่วมงาน ได้มีการทำพิธีรับมอบอากาศยานใหม่เข้าประจำการในกองทัพอากาศพม่า ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่ JF-17 B จำนวน 2 เครื่อง (ปี 2018 เข้าประจำการ 4 เครื่อง) ที่พัฒนาโดย Pakistan Aeronautical Complex(PAC) ปากีสถาน และ Chengdu Aircraft Industry Corporation(CAC) สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีจรวด SD-10 ยิงได้ 76 กิโลเมตร มีขีดความสามารถในการยิง R-77 ได้ระยะ 180 กิโลเมตร ที่ให้ความสามารถในการโจมตีเกินระยะสายตา (BVR) กับสามารถโจมตีทางทะเลด้วยจรวดนำวิถีต่อต้านเรือรบ C-802 แม้กระทั่งจรวด HARPOON ของอเมริกา และมีแผนที่จะเปิดสายการผลิตประกอบ JF-17 ภายในพม่าด้วย และเครื่องบินฝึก/โจมตีเบาไอพ่นแบบ Yak-130 จำนวน 6 เครื่อง (ปี 2017 เข้าประจำการ 6 เครื่อง) เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างกลุ่มยาคอฟเลฟ (Yakovlev) แห่งรัสเซีย และ กลุ่มเอมักชี (Aermacchi) บริษัทผลิตอากาศยานในอิตาลี หรือ Aeronautica Macchi เมื่อก่อน และ กลายมาเป็นบริษัท Alenia Aermacchi ในปัจจุบัน รองรับอาวุธและอุปกรณ์ได้หนักถึง 3,000 กิโลกรัม เช่น ระเบิดแบบนำวิถีและไม่นำวิถีได้ขนาดใหญ่สุด 500 กิโลกรัม อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ R-73E จรวดอากาศสู่พื้น S-8 80mm S-13 122mm S-25 340mm และกระเปาะปืนใหญ่อากาศ GSh-23L 23mm และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mil Mi-35P จำนวน 2 เครื่อง (ปี 2010 เข้าประจำการ 4 เครื่อง และปี 2011 เข้าประจำการ 4 เครื่อง) พบเห็นว่าได้ปฏิบัติการรบจริงครั้งแรกในภารกิจโจมตีที่มั่นกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ทางตอนเหนือติดพรมแดนจีนปี 2013 และอีกหลาย ๆ พื้นที่สู้รบในรัฐฉานตอนเหนือ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น