เรือตะเบ็งชเวตี (Tabinshwehti)

วันที่ 24 ธันวาคม 2559 ที่ท่าเรือหมายเลข 3 ในนครย่างกุ้ง พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการกองทัพสูงสุด ได้เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาค และเขตต่างๆ รวมทั้งนายทหารระดับสูงของเหล่าทัพอื่น และบรรดาทูตทหารต่างประเทศของมิตรประเทศ เข้าร่วมในพิธีบรรจุ เรือตะเบ็งชเวตี (Tabinshwehti) เรือชินด์วิน (Childwin) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกรถหุ้มเกราะลำเลียงพลขึ้นฝั่ง พร้อมกับรถชนิดดังกล่าวอีก 6 คัน เพื่อประจำหน่วยรบภาคพื้นดิน (นาวิกโยธิน) ของกองทัพเรือ เข้าประจำการ เป็นเรือคอร์แว็ตติดอาวุธปล่อยนำวิถีลำใหม่ล่าสุด และเป็นลำที่ 3 ในชั้นเดียวกัน ที่ออกแบบและต่อเองในพม่า
เรือตะเบ็งชเวตี (Tabinshwehti) เป็นเรือชั้นอะนอรธา (Anawrahta) ตั้งชื่อตามพระนามกษัตริย์นักรบที่ทรงพระปรีชา และ ทรงรวบรวมพม่าให้เป็นปึกแผ่น (พระเจ้าอะนรธา หรือ พระเจ้าอนิรุธ) ออกแบบเป็น เรือกึ่งสเตลธ์ โดยเรือพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ เป็นหมายเลข 773 ถัดจากเรือชั้นอะนอรธา ที่เป็นเรือต้นของชั้น ซึ่งเป็นหมายเลข 771 บรรจุในปี 2544 และ เรือพระเจ้าบุเรงนอง (Bayinnaung) ลำที่สอง หมายเลข 772 บรรจุในปี 2546 ตามลำดับ
เรือชุดอะนอรธา เรือบุเรงนอง เรือตะเบ็งชะเวตี้ เป็นเรือคอร์แว็ตเพียงชั้นเดียว ของกองทัพเรือพม่าในปัจจุบัน ต่อขึ้นมาเพื่อภารกิจสงคราม ผิวน้ำและสงครามใต้น้ำ ร่วมกับเรือฟริเกต ทั้งใหม่และเก่าอีก 5 ลำ กลายเป็นกำลังหลักของกองทัพเรือในปัจจุบัน เรือรบทุกลำยังติดระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ป้องกันตนเอง
เรือชุดอะนอรธา เรือบุเรงนอง เรือตะเบ็งชะเวตี้ ติดจรวดนำวิถียิงเรือแบบ C802 ที่ผลิตจากจีนเป็นอาวุธหลัก ติดปืนใหญ่เรือยิงเร็วแบบโอโตเมลารา (Oto Melara) 76 มม. ปืนยิงเร็วระยะประชิดขนาด 30 มม. แบบ AK-230 ที่ผลิตในรัสเซีย หรือ บ. 69 ที่ผลิตจากจีน ระบบปืนใหญ่ ระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน ระบบจรวดยิงเรือดำน้ำแบบ RBU-1200 รัสเซีย หรือ ระบบจรวด บ. 81 ที่ผลิตในจีน ท้ายเรือมีลานสำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำ.
เรือคอร์เวต ชั้นอโนรธา หมายเลข 773 "ตะบิ่งฉ่วยที" (ตะเบ็งชเวตี้)
เรือยกพลขึ้นบก 6 ลำ หมายเลข 1707 – 1712
เรือสนับสนุน "ชินดวิน" หมายเลข AP - 01 (AP - 02 เข้าประจำการ เมื่อปีก่อน เป็นเรือพยาบาล)
ปีนี้ ไม่มีการสาธิตของหน่วยซีล แต่มีการสาธิตการใช้ เรือไร้คนขับ (Unmanned Surface Vehicle - USV)
ย้อนกลับไปปี 2558 กองทัพเรือพม่า นำเข้าประจำการ เรือฟริเกต ชั้นจันซิตต่า F - 14 "สิ่นผิ่วฉิ่น"
เรือพยาบาล AP – 02
เรือยกพลขึ้นบก 6 ลำ (1701 - 1706)
ปัจจุบัน กองทัพเรือพม่ามีเรือฟริเกต ทั้งสิ้น 5 ลำ คือ F-11 (อ่องไชยะ), F -22 (มหาบัณฑุระ), F-23 (มหาสีหะสุระ), F-12 (จั่นซิตต่า) และ F-14 (สิ่นผิ่วฉิ่น)
กองทัพเรือพม่าต้องพัฒนาศักยภาพมาก สาเหตุก็เพราะ มีปัญหาอาณาเขตทะเลกับบังคลาเทศ ฟากบังคลาเทศนั้น เป็นพื้นที่แคบๆ แต่บดบังชายฝั่ง และ มีเกาะบดบังพม่าไว้อีก เมื่อปี 2012 ขึ้นศาลไปแล้วพม่าแพ้แต่พม่าก็ยังไม่ยอมเท่าไหร่ มีโอกาสสูงที่ 2 ประเทศนี้จะชนกันเรื่องอาณาเขตทะเลพอสมควร

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น