พม่าออกกฎห้ามนำเข้ารถพวงมาลัยขวา

เดิมประเทศพม่าใช้รถยนต์พวงมาลัยขวา และวิ่งเลนซ้าย ตามระบบอังกฤษ (แบบเดียวกับไทย) นายพลเนวินนำระบบสังคมนิยมเข้มข้นปกครองประเทศ ไม่ข้องเกี่ยวประเทศตะวันตก ดังนั้น การที่รัฐบาลหรือพ่อค้าเอกชน จะหาซื้อรถยนต์มาใช้ ที่สะดวกที่สุด และ ราคาพอจ่ายได้ ก็คือ การนำเข้ารถยนต์มือสองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา (แบบอังกฤษ ไทย) หลังจากนั้น รถยนต์ที่ถูกสั่งเข้าไปใช้ในพม่าก็ยังเป็นรถยนต์พวงมาลัยขวาเรื่อยมา จนกลายเป็นความเคยชิน เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 1970(2513) นายพลเนวิน สั่งยกเลิกการขับขี่ วิ่งเลนซ้าย ให้ขับขี่ วิ่งเลนขวา ในขณะที่นายพลเนวินออกคำสั่งเปลี่ยนระบบเลนการขับขี่ จำนวนรถยนต์ในย่างกุ้งมีไม่มากนัก เห็นได้จากภาพถ่ายเก่าจากหนังสือพิมพ์ ฉบับวันที่ 7 ธันวาคม 1970(2513)

นับจากปี 2011(2554) พม่าปฏิรูปการเมืองและการเศรษฐกิจมากขึ้น ได้อนุญาตให้เอกชนและปัจเจกชนนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศถึงราว 30,000 ราย ผู้ประกอบธุรกิจการค้านำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ยิ่งนำเข้า รถยนต์ก็ยิ่งเยอะ จนปีท้ายๆ ของรัฐบาลทหารก่อนหน้าการเลือกตั้ง ผู้บริหารเมืองย่างกุ้งได้ออกกฎใหม่ รถยนต์ที่จะมาจดทะเบียนใหม่ในย่างกุ้งจะต้องมีที่จอดรถ โดยอ้างว่า เดี๋ยวไปจอดตามซอกซอยถนนหลวง และนั่นก็กลายเป็นช่องทางการคอรัปชั่นอีกช่องหนึ่งเพิ่มขึ้นมา เพราะคนที่อยากซื้อรถยนต์ แต่ไม่มีที่จอดรถ ต้องควักกระเป๋าหาซื้อใบอนุญาตจอดรถเพิ่มขึ้น จำนวนรถยนต์จึงไม่ได้ลดลงจริง

กลุ่มผู้นำเข้ารถยนต์มือสอง ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่มากในพม่า เริ่มได้รับผลกระทบแรกจากนโยบายของเขตย่างกุ้งห้ามขายที่ไม่มีใบอนุญาตจอดรถ แต่สำหรับการห้ามนำเข้ารถยนต์มือสองที่ไม่ใช่อยู่ระหว่างปี 2011-2014 และต้องเป็นรถยนต์พวงมาลัยซ้ายเท่านั้น ทำให้กลุ่มผู้นำเข้ารถยนต์มือสอง ต้องเปลี่ยนคู่ค้าใหม่ ไม่สามารถนำเข้ารถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นได้อีก จะทำให้ผู้นำเข้ารถยนต์มือสองจากเกาหลีใต้และจีน เข้ามาครองตลาดพม่าแทนรถยนต์มือสองจากญี่ปุ่น และจะเป็นผลกระทบทำให้ราคารถยนต์ในตลาดพม่าต้องสูงขึ้นจากระบบที่เปลี่ยนไป นี่เป็นความจำเป็นที่รัฐบาล NLD ต้องตัดสินใจลงมือ หลังจากที่รีๆ รอๆ มาร่วมหนึ่งปีหลังจากเข้ามาบริหารประเทศ จากนี้ไปจะได้เห็นรถยนต์พวงมาลัยซ้าย-วิ่งเลนขวา บนท้องถนนของพม่ามากขึ้น และค่อยๆ ทดแทนรถยนต์พวงมาลัยขวาไปเรื่อยๆ ก็คงอีกราว 5 ปี 10 ปีจึงจะเห็นผลที่ชัดเจน.