Swedwatch เผย บริษัทยักษ์ใหญ่ มีส่วนต่อการละเมิดสิทธิในธุรกิจเหมืองหยกในพม่า
กะฉิ่น เป็นรัฐที่มีความพิเศษ นอกจากจะไกลปืนเที่ยงแล้ว ยังอยู่บนภูเขาสูงอันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย และที่สำคัญคือ “หยก” ที่มีค่าและปริมาณมาก หรือเรียกได้ว่า เป็นแหล่งหยกที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน ที่ผ่านมา รัฐบาลพม่าปล่อยสัมปทานการขุดหยกให้กับบริษัทของนักธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในกองทัพพม่าเท่านั้น การทำเหมืองหยกเป็นปัญหาเชิงอำนาจ ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องการเมือง นอกจากนี้แล้ว การทำเหมืองหยกยังเป็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนจากการที่บริษัททั้งหลายเอาเปรียบด้วยการไม่ทำตามสัญญาที่จะรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นนั้น รวมถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นับตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 20 การทำเหมืองหยกในเมืองผาก้าน (Hpakant) ของรัฐกะฉิ่น มีการใช้งานเครื่องจักรกลหนักและทำให้สามารถทำงานได้ด้วยความรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่การทำเหมืองเพิ่มขึ้นนั้นทำให้ที่ดินของผู้คนในท้องถิ่นถูกกดดันให้ขาย หรือถูกยึดไปอย่างไม่ถูกกฎหมาย และในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ผู้คนหลายพันคนต้องสูญเสียที่ดินทำกิน ขณะที่แหล่งน้ำต่างๆ กลายเป็นน้ำเสีย และหลายร้อยคนเสียชีวิตในแต่ละปีจากเหตุการณ์ดินถล่ม และน้ำท่วมที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการทำเหมืองเหล่านี้
วันที่ 20 มิถุนายน 2018 Swedwatch กลุ่มตรวจสอบธุรกิจของสวีเดน เผยแพร่รายงานว่า เครื่องจักรกลหลายพันเครื่องที่ผลิตจากบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ (Caterpillar) จากสหรัฐฯ บริษัทวอลโว่ (Volvo) จากสวีเดน และบริษัทโคมัตสุ (Komutsu) จากญี่ปุ่น มีส่วนต่อการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นในพม่าด้วยการขายเครื่องจักรที่ใช้โดยบริษัทเหมืองแร่ภายในประเทศที่เกี่ยวข้องต่อการเวนคืนที่ดิน การทำลายสิ่งแวดล้อม และความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ
แสดงความคิดเห็น
0 ความคิดเห็น