ไร้เงา รมว.ต่างประเทศไทย กล่าวเปิดสัมมนา สถานการณ์ในเมียนมา หลัง กต.เมียนมา ส่งหนังสือค้าน

 

สถานทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ส่งหนังสือราชการลับถึง กระทรวงการต่างประเทศของไทย ลงวันที่ 1 มีนาคม 2024 มีเนื้อความระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาขอคัดค้านอย่างรุนแรงต่อรัฐสภาของไทยที่จะจัดสัมมนา สามปีหลังรัฐประหาร สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย (3 Years after the Coup, Towards a Democratic Myanmar and its Impact on Security Along the Thai Border) ระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2024 ณ ห้องประชุมสัมมนา B 1 - 1 ชั้น B 1 อาคารรัฐสภา 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยระบุว่า จะสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเมียนมากับไทย และขอให้รัฐบาลไทยแจ้งให้รัฐสภาทราบถึงความกังวลของรัฐบาลเมียนมา และไม่ให้จัดกิจกรรมใดๆ ที่อาจขัดขวางความสัมพันธ์อันดีในอนาคต

วันที่ 2 มีนาคม 2024 เวลา 09.30-10.00 น. เป็นกำหนดการกล่าวเปิดงานสัมมนา สามปีหลังรัฐประหาร สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย (3 Years after the Coup, Towards a Democratic Myanmar and its Impact on Security Along the Thai Border) โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร (Mr. Panpree Phitthanukorn) แต่ได้ยกเลิกหมายดังกล่าวอย่างกะทันหันโดยไม่ได้ระบุเหตุผล ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไทยปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

กำหนดการจัดสัมมนา สามปีหลังรัฐประหาร สู่ประชาธิปไตยในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย (3 Years after the Coup, Towards a Democratic Myanmar and its Impact on Security Along the Thai Border) ระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2024 ณ ห้องประชุมสัมมนา B 1 - 1 ชั้น B 1 อาคารรัฐสภา 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยงานนี้ จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือ ระหว่าง คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วยองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งไทยและต่างประเทศ และมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากหลายภาคส่วนกว่า 200 คน รวมทั้งหน่วยงานด้านการระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ตลอดจนบุคคลสำคัญอย่าง  อู จฺย่อ โม ทุน (U Kyaw Moe Tun) เอกอัครทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติ และด่อ สิ่น หม่า อ่อง (Daw Zin Mar Aung) รัฐมนตรีสหภาพ กระทรวงการต่างประเทศ (Ministry of Foreign Affairs) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government: NUG) รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา ที่เข้าร่วมงานผ่านระบบวิดีโอลิงค์

แม้ถูกคัดค้านจากรัฐบาลทหารเมียนมา นายรังสิมันต์ โรม (Mr. Rangsiman Rome) สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรของไทย ซึ่งเป็นผู้จัดการสัมมนาในครั้งนี้กล่าวในการสัมมนาว่า สิ่งที่พวกเรากำลังทำในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกในการนำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ มาพูดคุยกัน และจะเป็นการปูทางไปสู่การแก้ปัญหาทางการเมืองในเมียนมาอย่างสันติและยั่งยืน ขณะที่วิทยากรที่ขึ้นกล่าวในการสัมมนาสถานการณ์ในเมียนมาครั้งนี้ ยังรวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government: NUG) รัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ (Ethnic Armed Organizations: EAOs) แต่ไม่มีตัวแทนจากรัฐบาลทหารเมียนมา ภายใต้การนำของ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย (Senior General Min Aung Hlaing) ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพ ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (State Administration Council: SAC) เข้าร่วมการสัมมนาแต่อย่างใด