กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ออกแถลง เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาถอนกำลังทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ก่อนสิ้นปี 2020 นี้

 

สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ลงนามในหนังสือสัญญาเกี่ยวกับการยุติการสู้รบทั่วประเทศกับรัฐบาลเหน่ปฺยี่ด่อและกองทัพเมียนมาในปี 2012 หลังจับอาวุธสู้รบกันมานานกว่า 60 ปี โดยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) นั้นเป็นหนึ่งในกองกำลังกลุ่มติดอาวุธชนพื้นเมืองของเมียนมาหลายกลุ่มที่เข้าร่วมกระบวนการเพื่อสันติภาพและการปรองดองแห่งของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา แต่สถานการณ์ในสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ที่แบ่งอำนาจการปกครองออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งปกครองโดยส่วนกลาง และอีกส่วนหนึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) นั้น มีความขัดแย้ง ความรุนแรง และความไม่สงบก็ยิ่งปรากฏให้เห็นอย่างเป็นระบบ มีทั้งความคลี่คลายขยายตัว มีทั้งความแปรปรวน และก็ความซับซ้อนมากขึ้น 

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2020  กองบัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ซึ่งเป็นฝ่ายการทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาถอนกำลังทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ก่อนสิ้นปี 2020 นี้

วันที่ 2 ธันวาคม 2020 เวลาประมาณ 07.00 น. ทหารกะเหรี่ยง กองพันที่ 102 กองพลที่ 5 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ยิงปะทะกับ ทหารเมียนมา กองพันทหารราบเบาที่ 339  ที่บริเวณ ระหว่าง หมู่บ้านหว่าโต และ หมู่บ้านทีกะลอ เขตเมืองต่อยโล แขวงผาปูน รัฐกะเหรี่ยง สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทหารเมียนมา เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 3 นาย