จากประวัติศาสตร์ที่เขียนโดยเจ้าอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งพยายามแสดงให้เห็นความอ่อนแอของพระเจ้าธีบอกษัตริย์พระองค์สุดท้าย ฉายภาพลักษณ์ของความพ่ายแพ้ ยอมจำนวน โดยไม่ต่อสู้ขัดขืน ทั้งนี้เพื่อทำลายศรัทธาที่พสกนิกรมีต่อพระองค์ แต่นักประวัติศาสตร์ของพม่า ที่ค้นคว้าเรื่องนี้ ได้เขียนประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นความพยายามของพระองค์ ในการต่อสู้การรุกรานของต่างชาติ จนกระทั่งนาทีสุดท้าย ที่อังกฤษส่งทหารเข้ายึดพระราชวังมัณฑะเล พระเจ้าธีบอทรงสิ้นสุดการครองราชย์ในปี พ.ศ.2428 และ เวลาต่อมาเจ้าอาณานิคมอังกฤษได้นำพระองค์ พร้อมพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์จำนวนหนึ่งไปยังอินเดีย เพื่อลดการต่อต้านจากชาวพม่า
พระเจ้าธีบอกับพระราชินีศุภยลัต และ พระราชธิดา 2 พระองค์ที่ยังเป็นทารกน้อย ถูกนำไปยังรัตนคีรี โดยอังกฤษให้ทรงพำนักอยู่แต่ภายในพระตำหนักแห่งนั้น ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังที่อื่นใด จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ.2459 หลังจากทรงมีพระอาการพระหทัยวาย และหลังจากนั้น เชื้อพระวงศ์ส่วนหนึ่งได้เดินทางกลับพม่า แต่อีกส่วนหนึ่งยังคงอาศัยอยู่ในอินเดีย ทางการอินเดียได้จัดสร้างสุสานบรรจุพระบรมศพ ขณะเดียวกันก็ได้ทำธงรักษา พระตำหนักเก่า กับทั่วอาณาบริเวณให้เป็นโบราณสถานมาจนกระทั่งปัจจุบัน
พล.อ.เต็งเส่ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้เดินทางไปถวายอาลัยและเยี่ยมชมเขตพระตำหนักมาครั้งหนึ่ง ทั้งยังเชิญชวนบรรดาเชื้อพระวงศ์รุ่นหลังๆ ให้กลับไปอาศัยทำกินในแผ่นดินมาตุภูมิของพระองค์อีกด้วย
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2555 พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดี เป็นผู้นำพม่าคนแรกที่ไปสักการะสุสานกษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่ทรงลี้ภัยและพำนักในอินเดีย จนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปี 2459 และฝังพระศพไว้ที่นั่นตลอดมา
พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดี ถวายสักการะหลุมพระศพพระเจ้าธีบอกับพระราชินีศุภยลลัต โดยเจ้าอาณานิคมอังกฤษได้นำพระองค์ไปพำนักที่พระตำหนักเมืองรัตนคีรี รัฐมหารัศตรา ประเทศอินเดีย หลังชนะสงครามและยึดครองพม่าเบ็ดเสร็จ
พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดี มอบเงินกับของขวัญแด่เชื้อพระวงศ์พระเจ้าธีบอที่ยังอาศัยอยู่ในอินเดียสืบมา และได้ทูลเชิญบรรดาเชื้อสายพระวงศ์ของอดีตกษัตริย์ ให้กลับไปพม่าอีกด้วย
ตามรายงานของสื่อกองทัพ คณะทางการพม่าออกเดินทางไปยังเมืองมุมไบ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 โดยเครื่องบินโดยสาร ก่อนเดินทางไปยังเมืองรัตนคีรี โดยเฮลิคอปเตอร์ ที่จัดอำนวยความสะดวกโดยกองทัพบกอินเดีย
วันที่ 16 ธันวาคม 2559 คณะทางการพม่าได้จัดพิธีทางศาสนา เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 100 การเสด็จสวรรคตของพระเจ้าธีบอ กษัตริย์พระองค์สุดท้าย ที่เสด็จสวรรคตในอินเดีย รองประธานาธิบดี อู มี้น ส่วย กับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ กับผู้นำสงฆ์ รวมทั้งทายาทของอดีตกษัตน์ 2 คน เดินทางไปยังสุสานกับแหล่งโบราณสถาน ในเมืองรัตนคีรี เมืองเล็กๆ ริมฝั่งทะเลอาหรับ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐมหารัชตระ
อู มี้น ส่วย รองประธานาธิบดี กับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพ กับ ร่วมกันวางพวงมาลา ที่สุสานพระเจ้าธีบอ ก่อนจะมีพิธีทางศาสนา การสวดพระปริยัติธรรม โดยพระสงฆ์ทั้งฝ่ายอินเดียและฝ่ายพม่า ที่จัดขึ้นในบริเวณพระตำหนักเก่า และ ในโอกาสนี้มหาสันทกุมารโซวิน กับ นางเทวีคิน ซึ่งเป็นพระราชปนัดดา(เหลน) เป็นทายาทของอดีตกษัตริย์ หนึ่งในบรรดาเชื้อพระวงศ์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ได้เป็นตัวแทนครอบครัว มอบเงินบริจาคแด่สำนักงานที่ดูแลแหล่งโบราณสถานดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ทางการรัฐมหารัชตรา ได้นำคณะจากพม่าเยี่ยมชมบริเวณพระที่นั่ง อันเป็นที่ประทับของพระเจ้าธีบอกับพระราชินีศุภยลัต ทรงประทับอยู่ จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ชีพ ในเวลาต่อมา อู มี้น ส่วย รองประธานาธิบดี กับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพ ยังได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงอาหารเพลแด่พระสงฆ์ ทั้งจากพม่าและอินเดีย ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ก่อนเดินทางกลับ คณะยังได้ไปเยี่ยมชมบริเวณ Gate of India ท่าเรือเก่าแก่ ที่อังกฤษ จัดสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคม สำหรับขนส่งน้ำมันดิบที่มุมไบ และได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญๆ
แสดงความคิดเห็น
0 ความคิดเห็น