สี่กองกำลังจับมือรบพม่าใกล้ชายแดนจีน
หนึ่งในสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ของรัฐบาล NLD คือ ข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ต่อสู้กับกองทัพ แต่การต่อสู้ที่ยังดำเนินอยู่ในรัฐกะฉิ่นและรัฐฉานกำลังบ่อนทำลายการเจรจาสันติภาพที่คาดว่าจะใช้เวลาหลายปีในการยุติความขัดแย้งอันซับซ้อนนี้
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กองทัพพม่าปะทะกันกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐกะเหรี่ยง ส่วนเวลานี้ พื้นที่ครึ่งหนึ่งทางเหนือของรัฐยะไข่ก็อยู่ภายใต้การปิดล้อมทางทหารพม่า หลังเกิดเหตุการโจมตีฐานชายแดนเมื่อเดือนก่อน ทำให้ประชาชนมากกว่า 30,000 คน ต้องย้ายออกจากที่อยู่อาศัย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน ในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นล่าสุด
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2559 เกิดเหตุการต่อสู้ระลอกใหม่ในพื้นที่รัฐฉานใกล้ชายแดนจีน เหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่ทำลายความหวังของนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนพม่า ที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพทั่วประเทศ หลังตกอยู่ในสงครามกลางเมืองมานานหลายปีตามพื้นที่ชายแดนของชนกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอยู่หลายกลุ่มในประเทศ
โดยสำนักข่าวของทางการพม่า อ้างรายงานของสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐ ที่รายงานเหตุโจมตีอย่างละเอียดว่า เมื่อเวลา 02.00 น. มีการโจมตีป้อมจุดตรวจทางเข้าเมืองหมู่แจ้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและอส. ยิงตอบโต้ ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ล่าถอยไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
หลังจากนั้นกองกำลัง KIA และ MNDAA ได้โจมตีป้อมของทหาร 3 แห่งในเมืองหมู่แจ้ ต่อมาเวลา 06.00 น. กองกำลัง KIA และ MNDAA ได้โจมตีสถานีตำรวจที่บ้านปางทราย เขต 4 และป้อมของทหารที่บ้านปางทราย เขต 1 ขณะเดียวกัน กองกำลัง TNLA ได้โจมตีด่านของตำรวจที่สะพานนันปอ ห่างจากเมืองหมู่แจ้ไปทางทิศใต้ราว 29 กม. นอกจากนี้ กองกำลัง TNLA และ KIA ได้โจมตีเต๊นท์การค้าในเมืองหมู่แจ้ด้วย เวลา 08.00 น. กองกำลัง TNLA ได้โจมตีป้อมตำรวจที่หัวหนองในเมืองหมู่แจ้ นอกจากนี้เมื่อเวลา 03.30 น. มีการระเบิดสะพานสุมโหลง ทำให้ร้านค้าใกล้กับสะพานถูกเพลิงไหม้ และที่สะพานข้ามแม่น้ำตู้ ใกล้อำเภอสีป้อก็ถูกวางระเบิดเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองล่าเสี้ยวซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐฉาน และมีทางหลวงเชื่อมไปยังเมืองหมู่แจ้ เมืองการค้าบริเวณชายแดนจีนว่า เห็นเฮลิคอปเตอร์ และรถบรรทุกที่ใช้ลำเลียง เตรียมพร้อมที่สนามบินเมืองล่าเสี้ยว
ฝ่ายกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ ระบุว่า กลุ่มที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กองทัพเอกราชคะฉิ่น(Kachin Independence Army-KIA) ที่ยังไม่มีการลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า และกลุ่มชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม ที่รัฐบาลพม่าไม่รับรองสถานะการเจรจาและกำลังสู้รบกันอยู่ คือ กองทัพอาระกัน (Arakan Army – AA) โดยกองทัพพม่ากล่าวหาว่า มีฐานฝึกอยู่ในรัฐคะฉิ่น กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือดาระอั้ง (Ta’ang National Liberation Army - TNLA) กองทัพพม่ากล่าวหาว่า ช่วยเหลือกองทัพคะฉิ่น และ กองทัพสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตยเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army (MNDAA) หรือกลุ่มโกก้าง กองทัพพม่ากล่าวหาว่า หลังถูกปราบในปี 2552 ต่อมาในต้นปี 2558 ได้เปิดปฏิบัติการทางทหาร เพื่อชิงพื้นที่คืนจากรัฐบาลพม่าทางตอนเหนือของรัฐฉานติดกับชายแดนจีน
พ.อ.ต๊ะโพงจ่อ เลขาธิการ TNLA ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ลงมือโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้ปฏิบัติการของกองทัพพม่าในพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ จากการที่กองทัพพม่าเปิดปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ สำหรับกองกำลัง TNLA เป็นการยากที่จะตั้งฐานอยู่ในป่า” และระบุไปยังประชาคมระหว่างประเทศด้วยว่า "กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ไม่สามารถหลบซ่อนอยู่ในป่าได้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาสู้ในเขตเมือง"
พ.อ.ต๊ะโพงจ่อ เลขาธิการ TNLA ยังระบุด้วยว่า “การโจมตีดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมืองด้วย โดยเขาเรียกร้องให้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดพม่า และนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรัฐบาลพรรค NLD ทำงานหนักเพื่อสันติภาพอย่างแท้จริงและอย่าละเลยเหตุโจมตีที่ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์” ข่าย ตู ข่า จากกองทัพอาระกัน(AA) กล่าวยืนยันว่า “เรากำลังต่อสู้ร่วมกันกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เป็นพันธมิตรของเรา”
เหตุการต่อสู้ระลอกใหม่ในพื้นที่รัฐฉานใกล้ชายแดนจีน ทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลจะบานปลาย สร้างความบาดหมางระหว่างพม่ากับจีนอีกครั้งหนึ่ง เช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่กองทัพพม่าปราบปรามกองกำลังโกก้าง(MNDAA)อย่างหนักด้วยอาวุธนานาชนิด มีประชาชนจากฝั่งพม่านับหมื่น ข้ามพรมแดนหนีภัยไปยังฝั่งจีน เป็นภาระให้แก่ทางการจีน ครั้งนั้นกองทัพพม่าใช้เฮลิคอปเตอร์ "กันชิป" Mi-35 ออกยิงกราดที่ตั้งของฝ่าย MNDAA และ ส่ง MiG-29 ไปทิ้งระเบิด ทำให้ระเบิดจำนวนหนึ่งตกลงในดินแดนจีน นั่นคือเหตุการณ์ในเดือนมีนาคม 2558 ที่ทำให้จีนตอบโต้ โดยส่งเครื่องบินรบจำนวนหนึ่งไปประจำการที่สนามบินใกล้ชายแดนพม่า และส่งระบบจรวดต่อสู้อากาศยานติดตั้งตามฐานปฎิบัติการตามชายแดน หลังจากสื่อจีนได้ออกกดดันรัฐบาลอย่างหนักที่ปล่อยให้ประเทศเล็กๆ ล่วงล้ำอธิปไตย ต่อมาสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ข้อสรุป ทำให้พม่าต้องขอโทษจีนอย่างเป็นทางการ.
แสดงความคิดเห็น
0 ความคิดเห็น